เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ใช่โรคไบโพลาร์หรือไม่

จากเรื่องราวของคุณจุ๊บ สกุณา ภรรยาของพี่ตี้ สมเจตน์ เจริญวัฒน์อนันต์ ที่นอกจากจะป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบแล้ว ยังมีอาการของโรคไบโพลาร์ร่วมด้วย โรคนี้อันตรายกว่าที่คาดคิด มารู้จักโรคชนิดนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการดูแลคนที่เรารักกันเถอะ

โรคไบโพลาร์เป็นโรคที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอารมณ์ความรู้สึก ผู้ป่วยมักมีอาการสลับกันระหว่างอารมณ์ร่าเริงสุดขั้ว และภาวะเศร้าเหงาเบื่อติดต่อกันประมาณหนึ่งสัปดาห์  สาเหตุของโรคมาจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง พันธุกรรม หรือการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติด หรือความเครียดสะสม

อาการของโรคไบโพลาร์ ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ร่าเริงผิดปกติ (Mania) คุยเก่ง สนุกสนาน อยากเที่ยว อยากใช้จ่ายเงิน มีความตื่นตัว หากใครมาขัดจังหวะความสนุกสนานก็อาจหงุดหงิด อารมณ์ร้าย หรือสลับไปสู่อาการซึมเศร้า (Depression) ราวกับเป็นคนละคน อาจทำให้เสียงาน เสียการเรียน มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับคนรอบข้าง บางคนก็อยากออกไปเที่ยวกลางคืน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หรืออาจร้ายแรงจนคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า และนำไปสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด เชื่อหรือไม่ว่า อัตราการฆ่าตัวตายที่มีสาเหตุจากโรคไบโพลาร์มีมากถึง 15 – 20% และเกิดขึ้นได้ทั้งในช่วงเวลาที่ร่าเริงและซึมเศร้า

หากพบว่าคนรอบข้างมีอาการของโรคซึมเศร้า หรือกำลังอยู่ระหว่างรักษาโรค สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความเข้าใจที่มีต่อผู้ป่วย ควรให้ความรัก ความเอาใจใส่ รวมทั้งแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงกาแฟ แอลกอฮอล์ และสิ่งมึนเมาทุกชนิด